วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2551

เรื่องย่อ ละครสวรรค์เืบี่ยง



ลีลา (พี่สาวนางเอก รับบทโดย น้ำผึ้ง ณัฐริกา) กำลังจะแต่งงานอีกไม่กี่วัน แต่โชคร้ายประสบอุบัติเหตุพร้อมว่าที่สามี ทำให้แฟนต้องเสียชีวิต แต่ตัวเองรอด คู่กรณีจากอุบัติเหตุ คือ พ่อพระเอก (คิด วรวัตต์) ซึ่งก็ต้องสูญเสียภรรยา ในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน คิดจึงช่วยเหลือลีลาเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้ และดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของลีลาทุกอย่าง

เมื่อรู้เรื่องของลีลา ทำให้เขาหลงรักลีลา และขอต่งงานกับเธอ แต่ลีลาไม่ได้รักคิด แต่ก็ยอมแต่งด้วย เมื่อทราบว่าคิดมีลูกชาย คือ คาวี (พี่เคนพระเอกของเรานี่เอง) เธอต้องการแก้แค้นคาวี คนที่เธอเคยลุ่มหลงเมื่อครั้งอยู่ในวัยสาว แต่ถูกคาวีตอบแทนด้วยกิริยาเย่อหยิ่ง เพราะสมัยก่อนบ้านของครอบครัวลีลาเคยเช่าบ้านอยู่ในละแวกเดียวกับบ้านเศรษฐีของคิด และมีศุภจิตเพื่อนคนเดียวของคาวีเป็นผู้แนะนำ


คิดให้ลีลาพาครอบครัวมาอยู่ในบ้านด้วยกัน ลีลาจึงพาน้องสาว นาริน (พี่แอนคนสวย) น้องชาย เริ่มฤกษ์ และมารดา มาอยู่ด้วย ทำให้คาวีซึ่งไม่เห็นด้วยกับการที่พ่อแต่งงานใหม่อยู่แล้วโกรธมาก ยิ่งเมื่อรู้ว่าแม่เลี้ยงคนใหม่อายุน้อยกว่าตนและเป็นลีลาด้วย ยิ่งพาลเกลียดครอบครัวลีลา เขาทะเลาะกับพ่อบ่อย จนกระทั่งวันหนึ่งคิดเครียดจัดที่ทะเลาะกับคาวี ถึงกับช็อคและหัวใจล้มเหลวเสียชีวิต คาวีเสียใจมากที่เป็นต้นเหตุให้บิดาที่รักเขาที่สุดต้องจากไป

หลังงานศพคิด มีการเปิดพินัยกรรมแบ่งสมบัติให้ลีลาและคาวีคนละครึ่ง แต่คิดก็ได้ซ่อนอุบายในครั้งนี้ไว้อย่างแยบคายคือบ้านวรวัตต์ที่แบ่งคนละครึ่งแต่ห้ามแบ่งขายเด็ดขาด

ลีลาตกลงแบ่งการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านกับคาวี และแยกกันอยู่ แต่ลีลาซึ่งทั้งรักทั้งเกลียดคาวี ก็ยังคอยเหน็บแนมต่อว่าปะทะคารมกับคาวีเรื่องคิดอยู่เสมอ ส่วนคาวีซึ่งเกลียดแม่เลี้ยงทุกคนเพราะรู้สึกว่ามาแย่งความรักจากพ่อไป มักจะต่อว่าลีลาเรื่องสมบัติของแม่ที่ลีลาเอาไปใช้พูดจาเสียดสีลีลาตลอดเวลา
คาวีได้พบกับนารินเมื่ออยู่ในบ้านเดียวกัน เมื่อทะเลาะกับลีลาความโกรธทำให้เขามาลงกับนารินอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความสวยและมีเสน่ห์แบบยิ่งพิศยิ่งงาม การพูดจาฉะฉาน คมในฝักทำให้ชายหนุ่มหลงรักนารินโดยไม่รู้ตัว เขาแอบหึงหวงนาริน เพราะภวันต์ (หลุยส์ สก็อต) น้องชายของพวา (แฟนสาวของศุภจิตเพื่อนคาวี) และทั้งสองยังเป็นน้องของเสาวภา(ภรรยาของคิดที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุ) มาติดพันนาริน เพราะเขารังเกียจครอบครัวของแม่เลี้ยงคนเก่าอยู่แล้ว และแน่นอนพวกภวันต์ก็เกลียดคาวีด้วย

คาวีและนารินปะทะคารมกันหลายครั้ง หญิงสาวยั่วโมโหเขา และตัวเขาเองก็ต้องการเอาชนะ เมื่อสบโอกาสในวันหนึ่ง ที่ลีลาไปเยี่ยมพี่ชายที่ต่างจังหวัดกับมารดา น้องชายนารินกลับดึก นารินทำให้คาวีโมโหและหึงที่มีท่าทีใกล้ชิดกับภวันต์เมื่ออารมณ์หึงถึงขีดสุดเขาจึงทำให้นารินตกเป็นของเขาในคืนนั้นเอง

นารินอัปยศอดสูจนไม่กล้าอยู่สู้หน้าพี่สาว จึงย้ายออกไปเช่าบ้านเอง และต่อมาก็ตั้งท้อง ลีลาออกตามหาน้องจนพบแต่นารินบอกแต่ว่าเกลียดคาวีจึงออกมา คาวีตามไปพบจนรู้ว่านารินจะมีลูกกับเขา ก็รู้สึกผิดและคิดถึงสิ่งที่เขาทำกับพ่อ จึงตามนารินไปทุกที่ กลับตัวเป็นคนดี คอยเอาอกเอาใจนารินจนคลอด แต่นารินใจเเข็งจนถึงที่สุด แต่สุดท้ายก็ยอมกลับบ้านและดีกับคาวีเพราะลูกไม่สบาย ส่วนคาวีก็ยอมพูดดีกับลีลาเพราะอยากให้ลีลาช่วยเรื่องนาริน ทุกคนจึงกลับมาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในบ้านวรวัตต์

พระเอก….คาวี วรวัตต์
หนุ่มรูปหล่อดีกรีนักเรียนนอก เรียนเก่ง จบปริญญาโท ประมาณว่าจากอเมริกา ลูกชายคนเดียวนักธุรกิจใหญ่ คิด วรวัตต์ แต่มีปมในใจเพราะมารดาเสียตั้งแต่เริ่มรุ่นหนุ่ม พ่อก็แต่งงานใหม่ เป็นคนฉลาดแต่เจ้าคิดเจ้าแค้น และเย่อหยิ่ง ถือตัว ชอบดูถูกคนจน และคนที่ด้อยกว่าตัวเอง ดูเหมือนเอาแต่ใจถ้าไม่ชอบใจอะไรก็แสดงออกชัดเจน บางคนก็ว่าเขาเหมือนเด็กที่ไม่ยอมโต ไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะไม่มีใครอยากคบหาแถมยังเปลี่ยนคู่ควงบ่อยเพราะผู้หญิงคนไหนก็เบื่อนิสัยที่ให้พวกเธอต้องตามใจของคาวียกเว้นศุภจิตที่ไม่ถือสานิสัยของคาวี

นางเอก…นาริน
นาริน หญิงสาวสวยผิวสีน้ำผึ้ง ดูภายนอกท่าทางเรียบร้อย เป็นผู้หญิงที่มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนอยู่เต็มตัว มีอาชีพเป็นครูสอนตัดเย็บ เรียนไม่สูง เพราะฐานะยากจน เข้มแข็งอดทน มีมานะ อ่อนนอก แข็งใน มีความคิดเป็นผู้ใหญ่และคอยให้คำปรึกษากับพี่สาวเสมอ พูดน้อยแต่ฉลาดหลักแหลม เป็นผู้หญิงที่หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของตนเองมากจนบางครั้งเหมือนคนดื้อและเกือบทำให้ต้องสูญเสียความรักไป จึงเป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อกับพระเอกมาก

พี่สาวนางเอก…ลีลา
ลีลา…หญิงสาวผู้ที่ถูกชะตาชีวิตกลั่นแกล้ง จริงๆแล้วเธอไม่ได้รักใครจริงๆจังๆสักคนเลยยกเว้นพระเอกที่เหมือนรักแรกพบที่ยังฝังใจ กับแฟนคนแรก เธอก็นับถือเขาที่เขาเป็นคนดี ส่วนคุณคิด เธอก็เทิดทูนในฐานะสามีที่แสนประเสริฐ หลังจากชะตาชีวิตผกผันทำให้ลีลากับคาวีมาพบกันในฐานะที่ไม่คาดคิด ทำให้ลีลาเปลี่ยนความรักมาเป็นความแค้น และสะใจที่ได้มีโอกาสเป็นฝ่ายได้เปรียบและมีอำนาจเหนือกว่าพระเอก แต่แอบอาทรพระเอกทุกครั้งที่เห็นพระเอกปล่อยเนื้อปล่อยตัว ดื่มเหล้าทำร้ายตัวเอง แต่แสดงออกมาในท่าทีที่ร้าย เช่นเหน็บแนม กระแทกแดกดัน ประชดประชัน แอบหึงน้องสาวตัวเองเมื่อรู้ว่าพระเอกสนใจนารินอีกด้วย

ภวันต์ หรือ ต้อม
ชายหนุ่มกล้ามโตที่แอบหลงรักนาริน ภวันต์เป็นน้องชายของเสาวภาภรรยาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุของคิด และเขายังมีพี่สาวอีกคนคือพวา จะว่าไปเขาก็เป็นญาติห่างๆของคาวี(ที่ไม่ค่อยจะถูกกัน)เพราะคาวีรังเกียจฐานะพวกญาติของแม่เลี้ยง และพวกภวันต์ก็ไม่ชอบการวางท่าหยิ่ง จองหอง ของคาวี ภวันต์เป็นคนเปิดเผย สนุกสนาน ขี้เล่น เมื่อเขาได้พบนารินเขาก็หลงใหลในเสน่ห์ปลายจวักและความสวยของเธอ แต่นารินก็ไม่ได้คิดอะไรกับภวันต์มากไปกว่าคำว่าเพื่อน เขาจึงเป็นศัตรูหัวใจตัวฉกาจของคาวีไปอีกตำแหน่ง


ศุภจิตร-พวา
ศุภจิตร เพื่อนรักสมัยเรียนคนเดียวของคาวีเพราะไม่ถือสาความเป็นตัวตนของคาวี เป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับคนง่าย เขาจึงมีเพื่อนมากมายรวมไปถึงลีลาด้วย และเขานี่เองที่ก่อชนวนเหตุให้ลีลาและคาวีได้มาพบกันทำให้ลีลาต้องได้มาพบกับความผิดหวังในตัวคาวีจากสิ่งที่คาวีตอบแทนกับเธอ ศุภจิตรมีคนรักคือพวาซึ่งบังเอิญเป็นน้องของแม่เลี้ยงคาวีอีก พวาก็ไม่ค่อยชอบคาวีเช่นเดียวกับน้องชายของเธอเช่นกัน ทั้งสองคนและต้อมมักจะไปมาหาสู่ลีลาที่บ้านบ่อยๆ

แพท..หรือ..ภัทรศรี
สาวสวยนักเรียนนอก อเมริกันเต็มตัว เปรี้ยวเข็ดฟัน บุคลิกร่าเริง อารมณ์ดี เข้ากับคนง่าย ชอบเต้นรำ เรื่องสนุกสนานมีเพื่อนเยอะๆ ผ่านประสบการณ์ชีวิตโชกโชน ฉลาด ดูคนเป็น เป็นคู่ควงของคาวีแต่กลับมาชอบคลุกคลีกับพวกลีลา เพราะเบื่อความขี้หงุดหงิดของคาวี สุดท้ายก็มาดามหัวใจเพราะสงสารต้อมซะงั้น ที่ต้อมอกหักจากนาริ

ศัลยกรรม




ศัลยกรรมตกแต่งมีความหมายว่าอย่างไร
หมายถึง

1. ทำเพื่อความสวยงามคือคนปกติสวยน้อยทำให้สวยมาก
2. เป็นศัลยกรรมตกแต่งเสริมสร้างคนที่มีความพิการแต่กำเนิด หรือจำพวก ติดเชื้อจาการเกิดอุบัติเหตุ หรือผ่าตัดเนื้องอก ทำให้มีรูปร่างพิกลพิการไป แล้วจะตก แต่งเสริมสร้างให้เขาอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

ปัจจุบันคนที่นิยมทำศัลยกรรม นิยมทำส่วนใดของร่างกาย
โดยทั่วไปมีผู้มาขอรับศัลยกรรมเสริมสวย คือ ตา อันดับ 1 จมูก อันดับ 2 และ เต้านมอันดับ 3 ศัลยกรรมใบหน้าโดยเฉพาะดึงใบหน้า ดูดไขมันหน้าท้อง สะโพก ขา สำหรับชายศัลยกรรมปลูกผมเป็นอันดับหนึ่ง


การทำศัลยตกแต่งเพื่อรักษาโรคอะไรได้บ้าง
ศัลยกรรมตกแต่งแก้ไขความพิการ ควรแต่งตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเสริมสร้างความ พิการ รูปร่างผิดปกติ เช่น แขน ขา ลำตัว ไปจนถึงเท้า ความพิการบางรายเกิดมาตั้งแต่ กำเนิด หรือติดเชื้อ และการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกจากร่างกาย

สารซิลิโคนคืออะไร
คือสารเคมีชนิดหนึ่ง เป็นสารเกิดจากทรายและซิลิการ์ ที่ผลิตออกมามี 2 ประเภท คือ 1. ใช้ในอุตสาหกรรม เช่นน้ำมันหล่อลื่น 2. ใช้ทางการแพทย์ต้องทำให้สะอาดสารซิลิ โคน แบ่ง เป็น 4 ประเภท 1. เป็นของเหลว 2. เป็นแผ่น 3. เป็นแท่ง 4. ลักษณะคล้าย ฟองน้ำ
สารซิลิโคนเป็นของเหลว ทางการแพทย์จะไม่นิยมใช้ ใช้ในกรณีที่เป็นแผลบุ๋ม ใช้มาก ๆ สารซิลิโคนจะไปกองอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย จะทำให้เกิดการอักเสบ และผิดกฎหมาย ถ้าใช้ฉีดแล้วจะแข็งเจ็บ
ซิลิโคนแผ่น ใช้เป็นท่อน้ำเกลือ หรือใช้ไปหุ้มเครื่องกระตุ้นหัวใจ
ส่วนที่เป็นแท่ง ใช้เสริมจมูกที่ต้องการให้แข็งแรง ใช้ทำเป็นข้อเทียม
ส่วนลักษณะฟองน้ำ ไม่มีการผลิตออกมาใช้ ส่วนใหญ่ใช้ในที่นุ่ม เช่น ใบหน้าทุก ชนิดนอกจากซิลิโคนเหลวแล้ว ถ้าเราใช้อย่างถูกต้องและสะอาด พอเพียงมีเนื้ออ่อนคลุม จะไม่มีอันตราย

การทำหน้าอกใช้ซิลิโคนแบบไหน
การทำหน้าอกใส่ถุงนมเทียมเข้าไป ถุงนมเทียมชั้นนอกเป็นสารซิลิโคนชนิดแผ่น ปลอดภัย ในถุงจะมีซิลิโคนเหลวเมื่อจับถูกต้องแล้วจะนิ่มเป็นธรรมชาติ ข้อเสียจะค่อยๆ ซึมผ่านซิลิโคนที่เป็นถุงออกมาอยู่ที่ผิว หน้าอกที่ทำมาต่อไปจะแข็งมากน้อยแล้วแต่ กรณี และจะเจ็บจึงขอเตือนว่าอย่าไปเชื่อ 100 คนมีโอกาสแข็งได้ 20 - 40 คน ชนิดนี้ สหรัฐห้ามใช้
นอกจากนี้แล้วมีถุงนมข้างนอกเป็นซิลิโคน ข้างในเป็นน้ำเกลือเวลาใส่เข้าไปจะ รู้สึกแข็งกว่าธรรมดาเล็กน้อย แต่ถ้าแตกออกสู่ร่างกาย ร่างกายจะดูดซึมแล้วถ่ายออก มาเท่านั้น

ในการใช้สารซิลิโคนจะเกิดโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นหรือติดเชื้อได้หรือไม่ เราจะมีวิธีแก้ไขหรือรักษาได้อย่างไร
อันตรายจากซิลิโคน ถ้าใช้ของเหลวเกิดการอักเสบ ใช้ชนิดเป็นแผ่นต้อง
1. ทำในสถานพยาบาลที่สะอาดพอไม่ใช่ทำตามข้างถนน
2. การทำจมูกหรือหน้าอก ควรทำในขนาดที่แพทย์แนะนำอย่าขนาดใหญ่เกินการ การที่ทำใหญ่จะเกิดพังพืดยืดขยายหดตัวลัดทำให้จมูกใส ยิ่งถ้าทำสูงมากผิวหนังทน การยืด จากของที่เราฝังไม่ได้จะทำให้ทะลุออกมานอกผิวหนัง อย่าทำให้เกินความจริง

โอกาสของการติดเชื้อมีแล้วควรทำอย่างไร ให้เอาออกทันทีแล้วผ่าตัดทำการแก้ไข ถ้าทิ้งเอาไว้จะเกิดการเน่าในที่สุด

ทำศัลยกรรมเสร็จแล้วจะเป็นรอยแผลเป็นหรือไม่
การทำศัลยกรรมจะมีรอยแผลทุกชนิด การใช้เลเซอร์ผ่าตัดแล้วไม่มีรอยแผลเป็น ไม่เป็นความจริง การใช้เลเซอร์ผ่าตัดแล้ว ไม่มีแผลเป็นไม่เป็นความจริงทั้งหมด เช่น เดียวกับการผ่าตัดทำศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยจะมีรอยแผลเป็นแต่รอยแผลเป็นจะถูก ซ้อนไว้บริเวณที่ที่มองไม่เห็น และรอเวลาให้แผลเป็นค่อย ๆ จางจนเหลือเป็นรอยแข็ง ยาทั้งหลายที่จะช่วยให้จางไม่เป็นความจริง เพราะร่างกายของเราเป็นไปตามธรรมชาติ

รายละเอียดขั้นตอนการทำใช้เวลามากน้อยแค่ไหน
ขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัดและขึ้นอยู่กับฝีมือแพทย์ เวลาการใช้ทำจมูกส่วนใหญ่ 10-15 นาที หรือถ้าฝีมือปราณีตอาจใช้เวลา 2 ช.ม. ระยะเวลาการฟื้นตัว 3-4 วัน

ระยะเวลาการฟื้นตัวของคนไข
บวมมาก 3-4 วัน 7 วันไปไหนมาไหนได้ 3 อาทิตย์ออกสังคมได้ แต่ก็ยังมีบวมอยู่ ให้คงรูปร่าง 80% ก็ 3 เดือน

การทำศัลยกรรมแต่ละครั้ง สามารถกลับบ้านได้เลยหรือเปล่า
การผ่าตัดในการฉีดยาชาหรือให้ยาแบบสลึมสลือสามารถกลับบ้านได้เลย พวกที่ ดมยาผ่าตัดระยะสั้น ๆ สามารถกลับบ้านได้ แต่ถ้าทำผ่าตัดนานๆ ควรอยู่โรงพยาบาล อย่างน้อย 1 คืน

ในปัจจุบันทางโรงพยาบาลศิริราชมีบริการด้านนี้ไหม
ทาง รพ.มีสาขาวิชาศัลยศาสตร์ตกแต่งที่รับผิดชอบทางด้านเสริมสวย และศัลย กรรมเสริมสร้าง เป็นความจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อให้คนไข้พ้นจากความทุกข์ทรมาน ส่วนศัลยกรรมตกแต่งเสริมสวยรับทำเพื่อให้การศึกษา เพราะเราถืออันดับความสำคัญ รองลงมา แต่เรารับทำทุกประเภททุกชนิด

พบผู้ป่วยศัลยกรรมเสริมสร้างมากน้อยแค่ไหน
พบมากที่สุดคือปากแหว่ง 300 กว่าราย เพดานโว่ 150 กว่ารายนอกนั้นพบว่ามือ พิการ รูปร่างพิการปีละ 300 ราย ขณะนี้มีความพิการของกะโหลกศีรษะและใบหน้า เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรากำลังรักษา

ในทัศนคติของคุณหมอว่าด้วยศัลยกรรมตกแต่งมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน
สำหรับศัลยกรรมตกแต่งเสริมสร้างมีความจำเป็น ส่วนศัลยกรรมเสริมสวยทุกคน อยากจะสวย เพราะฉะนั้นเราต้องพิจารณาให้ปรึกษากับหมอให้ดูจากความพอดีจะดี กว่า

การแต่งกายแบบเกาหลี

แต่งตัว-แต่งหน้าแบบเกาหลี

หากพูดถึงเรื่องแฟชั่นแล้ว ปัจจุบันนี้คงจะหนีไม่พ้นแฟชั่นที่มาแรงแซงทางโค้ง นั่นก็คือ แฟชั่นสไตล์เกาหลี กระแสนิยมที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน

คำว่า แฟชั่น คงจะรวมไปถึงทุก ๆ อย่างที่กำลังเป็นที่นิยมและทันสมัยในแต่ละยุค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ รองเท้า เครื่องประดับ ทรงผม โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่นำแฟชั่นเหล่านี้คือ ดารา นักร้อง และที่ขาดไม่ได้คือ วิธีการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี

แฟชั่นในยุคนี้ เทรนด์เกาหลีเริ่มเข้ามาในสังคมไทยเรามากสุด ๆ เมื่อพูดถึงคำ ๆ นี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนะคะ กระแสที่มาแรงทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมทางด้านการบันเทิง ดารา นักร้อง ซีรี่ส์ต่าง ๆ ในด้านของภาษาก็เป็นที่นิยมไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้มีจำนวนนิสิตนักศึกษาไม่น้อยที่สนใจและเลือ กเรียนภาษาเกาหลีมากขึ้น พวกเราเริ่มรู้จักวัฒนธรรมเกาหลีกันมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหารการกิน การทักทาย และแฟชั่นเสื้อผ้า เพราะว่าคนเกาหลีเน้นสวมเสื้อผ้าตามฤดูกาลแตกต่างกัน ไป แต่ละฤดูมีลักษณะการแต่งกายที่ไม่เหมือนกัน เช่น

ฤดูใบไม้ผลิ หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า พม ฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีเสื้อผ้าที่ฉูดฉาด สดใส เสื้อผ้ามีหลากหลายสไตล์ด้วยกัน

ฤดูร้อน หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกว่า ยอรึม ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นสีสดใสเช่นกัน แต่โทนสีอ่อนลงมากกว่า ลักษณะเสื้อผ้าจะเป็นเสื้อกล้าม เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น กางเกงสามส่วน เป็นต้น

ฤดูใบไม้ร่วง หรือที่ภาษาเกาหลีเรียกกันว่า คาอึล ในฤดูนี้เสื้อผ้าจะเน้นเสื้อผ้าสีทึบ ๆ มืด ๆ เช่น สีน้ำเงิน สีน้ำเงินเข้ม สีกรมท่า สีน้ำตาล

ดูหนาว หรือ คยออูล ฤดูนี้เสื้อผ้าส่วนใหญ่เน้นสีดำเป็นหลัก เสื้อแขนยาวสีเข้ม เสื้อกันหนาวสีดำ เสื้อไหมพรมใส่คู่กับผ้าพันคอสีเข้ม ๆ

เสื้อสไตล์เกาหลี โดยส่วนใหญ่แล้วจะใส่เสื้อสองตัวซ้อนกัน เหตุเป็นเพราะว่าอากาศในประเทศเกาหลีค่อนข้างหนาวเย็ น เพราะฉะนั้นจึงเน้นเสื้อตัวยาว ๆ โทนสีอาจตัดกันหรือเป็นโทนเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความชอบ ส่วนกางเกง มักเป็นกางเกงประมาณเข่า มีผ้าผูกเอวประดับแทนเข็มขัด ในฤดูหนาวจะเป็นกางเกงขายาวแทน

สำหรับผู้หญิง ก็จะเป็นกระโปรง ส่วนใหญ่แล้วออกแนวหวาน ๆ น่ารัก ๆ หากเป็นกระโปรงสั้น นิยมใส่เล็กกิ้งไว้ด้านใน แต่ส่วนมากผู้หญิงเกาหลีนิยมใส่ชุดแซ็ก
ส่วนรองเท้า ใส่รองเท้าส้นสูงเป็นหลัก หรือรองเท้าบู๊ต อาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศ ลักษณะสีสันออกโทนสีพื้น ๆ
เครื่องประดับ ส่วนใหญ่ใช้เพชรคริสตัลเป็นส่วนประกอบ ลักษณะเหมือนทองคำขาว เงิน ไม่นิยมนำทองมาเป็นส่วนประกอบนะคะ
ทรงผม เน้นความเป็นธรรมชาติ นิยมดัดเป็นลอน ๆ คลื่น ๆ ทำผมให้ดูยุ่ง ๆ เป็นธรรมชาติ ทรงนี้สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
เครื่องประดับผมที่กำลังเป็นที่นิยมกันในตอนนี้ คือ ที่คาดผมแบบทูอินวัน (คาดหนึ่งอันแต่ดูเหมือนมีสองอัน) มีลักษณะแยกเป็นสองแฉกด้วยกัน มีสีสันสดใส มีลักษณะเป็นเพชร วับ ๆ หรือตามวัสดุที่ประดิษฐ์มา หรือเป็นกิ๊บติดผมแนวน่ารัก ๆ กุ๊กกิ๊ก

รวมไปถึงแฟชั่นการแต่งหน้าแบบเกาหลีที่เป็นกระแสมาแร งสุด ๆ ในตอนนี้ การแต่งหน้าแบบเกาหลีจะเน้นแบบธรรมชาติเป็นหลัก การแต่งหน้าแบบนี้คนไทยเราก็กำลังฮิตกันมาก ๆ ลักษณะการแต่งหน้าแบบนี้ นอกจากจะดูสวยอย่างธรรมชาติแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่สดใสอีกด้วย

คนเกาหลีเวลาแต่งหน้าจะเน้นที่ดวงตาเป็นหลัก อาจเป็นเพราะว่าคนเกาหลีมีจุดอ่อนที่ตา หมายถึงตาตี่ และมีชั้นเดียว สามารถลังเกตได้จากการที่คนเกาหลีทำศัลยกรรม ส่วนใหญ่แล้วคนเกาหลีเน้นทำตาสองชั้นเป็นหลัก แต่สำหรับคนที่ไม่ทำศัลยกรรมจะมีการแต่งดวงตาให้ดูคม ชัดขึ้นและเป็นธรรมชาติ โดยเลือกสีอายแชโดว์ให้เข้ากับสีผิว หรือสีขนตา และควรใช้ประมาณ 3 สี โดยทาไล่ตามเฉดโทนอ่อนที่สุดไปจนถึงเข้มที่สุด และลงสีที่หนึ่งที่เป็นโทนสีอ่อนสุดบริเวณเปลือกตา ทาสีที่สองลงตรงบริเวณจุดกึ่งกลางของตา และเกลี่ยขึ้นข้างบน แล้วไล่สีที่สามจากหางตามาถึงบริเวณกึ่งกลางตาแล้วเก ลี่ยขึ้น ลงสีที่เข้มที่สุดตามแนวชิดขอบตาอีกครั้ง และเกลี่ยให้เรียบเนียน

ถ้าอยากให้ดวงตาดูสวยคมชัดยิ่งขึ้น อย่าลืมเขียนขอบตาด้วยนะคะ แต่ควรเป็นชนิดเค้กอายไลเนอร์ เพราะดูซอฟต์เป็นธรรมชาติมากกว่า และไม่ควรเขียนแบบตวัดปลายขึ้น เขียนสีดำเฉพาะขอบตาบนเท่านั้น ซึ่งจะลากให้เป็นเส้นเล็กที่สุดโดยแทรกเข้าไประหว่าง ขนตา ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไป จากหัวตาจนถึงหางตาเท่า ๆ กัน และใช้แปรงเกลี่ยเพื่อไม่ให้เห็นเป็นเส้นขอบวาด

ส่วนขอบตาล่าง ให้ใช้สีขาวเขียนที่ขอบตา โดยเขียนที่ขอบตาด้านใน อีกเทคนิคที่ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากยิ่งนั่ นคือใส่ขนตาปลอม ซึ่งนิยมแซมขนตาแบบที่เป็นช่อ เพราะดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเป็นแผง การดัดขนตาให้งอนเริ่มจากโคนไล่ขึ้นไปที่ปลายและปัดม าสคาร่าทั้งขนตาจริงขนตาปลอมพร้อมกัน วิธีนี้ทำให้ขนตาจริงกับขนตาปลอมกลืนเป็นหนึ่งเดียวก ัน ดูเป็นธรรมชาติค่ะ

ชุดชั้นใน กับ สีผิว


ชุดชั้นใน กับ สีผิว

แฟชั่นกับความเปลี่ยนแปลงเป็นของคู่กันจริงๆ เพราะเมื่อสักไม่กี่ซีซั่นที่ผ่านมา ยังจำได้ว่า กระแสแฟชั่นที่ผู้คนนิยมใช้ชุดชั้นในสีสันสุดแสบ ประหนึ่งว่าเป็นอาภรณ์ที่มีไว้อวดนั้น มีความนิยมเป็นไปอย่างแพร่หลาย จนแทบแยกกันไม่ออกระหว่างชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ หรือเสื้อสายเดี่ยวที่มีไว้โชว์คู่กับเสื้อตัวสวย ถึงขนาดที่มีการใส่ลายละเอียด ลวดลาย และเครื่องประดับแนวคริสตัลเอาไว้ในบรา ซึ่งแม้จะต้องจ่ายแพงกว่า แต่ถ้าอินเทรนด์สาวๆ หลายคนยินดี

แล้วประเภทผิวสองสีของเราๆ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลด้วย เพราะว่าเดี๋ยวนี้ผู้ผลิตชุดชั้นในเขามีการผลิตคอลเล็กชั่นที่เหมาะกับสีผิวผู้สวมใส่มากที่สุด มีการผลิตรุ่นนี้ออกมา เขาว่าเป็นการเอาใจผู้หญิง เนื่องจากมีการสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่แล้วชุดชั้นในโทนสีเนื้อจะถูกอกถูกใจผู้หญิงมากที่สุด ด้วยเหตุผลว่ามันสามารถเข้ากับการแต่งตัวได้มากที่สุดนั่นเอง

คือเอาพฤติกรรมการเลือกซื้อที่จริงๆ แล้วเราก็ซื้อเป็นปกติมาสร้างให้เป็นเทรนด์ !

เทรนด์ที่ไม่เพียงตอกย้ำ แต่ยังเจาะลึกลงไปอีกว่าสีผิวของผู้หญิงในโลกมีกี่เฉดสี เพื่อจะได้ทำชุดชั้นในให้สีเนียนแนบเนื้อมากที่สุด

ซึ่งสาวไทยเอง เขาก็มีการสำรวจพบว่า มีสีผิวที่แตกต่างกันถึง 3 เฉดสี คือ ผิวขาว (สีของชุดชั้นในที่เหมาะคือ fair และ light), ผิวสองสี (สีชุดชั้นในที่เหมาะคือ bright beige หรือ beige) และผิวสีแทน (สีชุดชั้นในที่เหมาะเขาว่าคือ tan หรือ dark)

ข้อมูลวิจัยยังพบอีกว่า สาวไทยส่วนใหญ่มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ อยากแต่งตัวให้เข้ากับแฟชั่นประเภทเสื้อซีทรู คอลึก แต่กลัวโป๊ เมื่อมีชุดชั้นในที่ใส่ได้เนียนกับสีผิว เขาจึงคิดว่าน่าจะเสริมความมั่นใจให้กับสาวไทยได้มากขึ้น

hi 5


สำหรับหลายคนที่รู้จักและใช้บริการอยู่คงจะไม่ต้องอธิบายกันมาก เพราะคงรู้จุดประสงค์และการใช้งานดีอยู่แล้ว แต่หลายๆคนยังไม่ทราบว่าเจ้า hi5 นี่ใช้งานยังไง มีทำไม และเพื่อประโยชน์อะไร

Hi5.com เป็นเวบไซต์ที่ให้ผู้ใช้บริการมาฝาก profile ของตัวเอง คล้ายๆกับ blog เนี่ยแหละ แต่ว่าคนไม่ค่อยไปเขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวในนั้นซะเท่าไหร่ จะเน้นที่ตกแต่งหน้าตา profile เราให้สวยงาม ดึงดูดคนมาเข้า แต่จุดเด่นของมันอยู่ที่ ระบบ network ที่เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ หรือบังเอิญเจอเพื่อนเก่าสมัยมัธยมเมื่อหลายสิบปีก่อน หรือเพื่อนของเพื่อน กิ้กเก่า
แฟนเก่า .. แต่อีกหลายคนก็สมัครไปงั้นๆไม่ได้อะไรมากเพราะได้รับอีเมลชวนมาเล่น hi5 จากเพื่อน ...
ถามว่าจะเจอเพื่อนเก่าๆได้ไง ?
- เพราะในการสมัครเพื่อใช้บริการ เราจำเป็นต้องใช้ email จากที่ใดที่นึงเพื่อเป็นฐานให้รับข่าวสารจากทางเวบไซต์ เช่น เวลาใครมา add เราเพิ่มในรายชื่อเพื่อน ทางเวบก็จะอีเมลมาถามว่า จะยินดีตอบรับไหม? ถ้าเราดูแล้วไอ้นี่ไม่คุ้น หน้าตาไม่ผ่าน ไม่เคยรู้จักค่าตามาก่อนใครก็ไม่รู้ ก็ไม่ต้อง accept จบ.

และส่วนใหญ่อีเมลที่เราแจ้ง จะเป็นเมลที่ใช้เล่น msn หรือใช้ติดต่อกับเพื่อนประจำ ก็จะมีรายชื่อเพื่อนของเราจำนวนหนึ่ง เมื่อเราสมัครใช้บริการปั้บ ทาง hi5 ก็จะส่งอีเมลไปยังเพื่อนๆหรือคนรู้จักของคุณเหล่านั้น เพื่อ invite คนที่ยังไม่รู้จักเวบนี้ให้เข้ามาเล่น และ เพื่อ invite เพื่อนเราที่เล่นอยู่แล้วตอบรับเราเข้าสู่ friendlists

hi5 รู้ได้ไงว่าใครเป็นเพื่อนเราบ้าง
ก็เพราะว่าตอนที่เราลงทะเบียนทำการสมัคร จะมีขั้นตอนหนึ่งที่ถาม email และ password อีเมลนั้นจากเรา ทางเวบก็จะเข้ามาจัดการอัตโนมัติ

จะเจอเพื่อนเก่าได้ไง??
ตรงนี้ก็ถ้าพูดตรงๆ คือ ใช้เวลา บวกกับความขยันของตัวคนใช้งานเอง ถ้าเล่นชิลๆขำๆก็อยู่เฉยๆ สักวันนึงก็มีคนแอดมาเอง หรือถ้ามีเวลา ว่าง อยากเข้าไปดู profile คนอื่นๆบ้าง ก็คลิกไปตรง friends ว่ามีใครบ้างอาจจะบังเอิญเจอ
และอีกวิธีคือเข้าไปตรง Group ซึ่งจะมีกลุ่มหลากหลายมาก ของเราที่เป็นสมาชิกอยู่ ก็ พวกมหาวิทยาลัย คณะ โรงเรียนมัธยมฯ หมู่บ้านสัมมากรฯ แนวดนตรีที่ชอบ ฯลฯ
สมมติเราจบจาก ธรรมศาสตร์ เข้าไป group นี้ก็จะเจอหน้าเพื่อนต่างคณะที่เคยเรียนด้วยกันตอนปีหนึ่ง ก็แอดเค้ามา...และบางคณะก็ตั้งกลุ่มด้วยก็จะเจอคนคุ้นหน้าไปอีก...ยิ่งกว่านั้น บางคณะมีโต้ะหรือมีกลุ่มย่อย เช่น หมีขาว15 (อันนี้ตั้งเองนะ 55) ก็ยิ่งเจาะจงลงไปอีก ....

เราเล่นมาได้เกือบปีแล้ว ตอนแรกเสร่อมาก เพื่อนส่ง invite มาให้เป็นชาติแล้ว แต่เราก็กลัวจะเป็นพวก spyware หรือไวรัส เลยลบไปหมด กว่าจะถึงบางอ้อก็เพื่อนตัวดีช่วยอธิบายเนี่ยแหละ

และส่วนใหญ่คนที่เล่นเนี่ย จะใช้เวบนี้โชว์รูปตัวเอง เพื่อนเก่าเราบางคนเปลี่ยนไป๋ป...แทบจำไม่ได้เลยทีเดียว หนุ่มๆหลายคนก็ชอบเข้าไปแอบดู แอบจิ้ก แอบส่ง messageไปจีบ แต่ยอมรับสาวสวยในนั้นเยอะจริงๆ

รู้จัก hi5.com กันระดับหนึ่งแล้ว มาดูข้อดีข้อเสียของมัน อันนี้จากเราและเสียงบ่นของเพื่อนๆเท่านั้นนะคะ ...
ข้อดี
1. มีโอกาสได้เพื่อนใหม่ๆและ keep connect กับเพื่อนเก่าๆ ที่บางคนอาจจะเลือนหายไปกับความทรงจำ (แต่พอส่ง msg คุยกันก็ไม่รู้จะคุยไร เพราะมันห่างกันมานาน เฮ้อ)
2. การเก็บรักษาความส่วนตัว ก็ใช้ได้ระดับหนึ่ง คือ ยังไงๆถ้าเราไม่บอก ไม่ว่าใครก็ไม่รู้อีเมลเรา แต่ถ้าอยากให้รู้ก็เขียนบอกไปเลยก็ได้ หรืออยากรู้ msn ใครก็แมสเสจไปหาเขาตรงๆ
3. วิธีการสมัครง่าย และวิธีการทำ hi5 ให้สวยงามก็ง่าย
4. ข้อดีก็เหมือน blog ทั่วไปๆแหละเพียงแต่คนเล่นนิยม เพราะมันดูทันสมัยและใช้งานง่าย

ข้อเสีย
1. ช่วงนี้มีการพัฒนาเวบ อาจจะล่มบางครั้ง
2. ใส่ลูกเล่นหรือปรับแต่งอะไรได้ไม่ค่อยเยอะ มันจะมี pattern อยู่แล้ว ก็จะปรับได้ส่วนของแบคกราวน์ สี font ตัวอักษร ใส่เพลง vdoclip ....
3. ไม่มีประโยชน์เท่าบล้อก เพราะคนเข้ามาดูรูปส่วนใหญ่

ใครนึกได้อีกมาใส่ๆเยอะๆนะ นึกได้เท่านี้จริงๆ ฮ่าๆ

เซ็กซ์กับความรัก

เซ็กซ์กับความรัก
เรื่องเซ็กซ์มักถูกมองว่าเป็นเรื่องผิด เรื่องสกปรก เรื่องที่ต้องปิดบังซ่อนเร้น เนื่องด้วยวัฒนธรรมหรือสังคมก็ดี การมีอคติที่ไม่ดีต่อเรื่องเซ็กซ์ ก่อให้เกิดปัญหามิใช่น้อยอยู่เหมือนกัน อคติในที่นี้รวมถึงผู้ที่คิดว่าสิ่งที่ตนรู้ว่าถูกต้อง ด้วย

เราควรมีความรู้และความเข้าใจเรื่องเซ็กซ์ที่ถูกต้อง จะช่วยเสริมโลกทรรศน์ให้เข้าใจโลกและชีวิตได้สมบูรณ์กว้างขวางขึ้น เพราะความรู้และความเข้าใจเรื่องเซ็กซ์ที่ถูกต้องเป็นสิ่งจำเป็น เช่นเดียวกับที่เราควรมีความรู้ในการดูแลรักษาสุขภาพอนามัย เราต้องยอมรับว่าแท้จริงแล้ว เรื่องเซ็กซ์เป็นสิ่งที่คู่กับชีวิตคนเรา

อย่างไรก็ตาม เรื่องของเซ็กซ์นั้นอาจใช้ความรู้ได้ส่วนหนึ่ง แต่เราอย่าลืมความรัก ความรักสำคัญกว่าเซ็กซ์ เซ็กซ์ที่ปราศจากความรักดูประหนึ่งหุ่นยนต์ไขลาน มีแค่ไฟราคะ แรงกระตุ้น และมีผลลัพธ์ บางทีการเมคเลิฟโดยปราศจากเลิฟก็ดูเหมือนไม่ใช่เลิฟ ถ้าจะมีเซ็กซ์แต่เพียงอย่างเดียวไม่ใช่เรื่องยาก แต่ความรักช่วยให้เซ็กซ์ตื่นเต้นกว่าการทำเซ็กซ์เพียงเพื่อเซ็กซ์อย่างเดียว หากปราศจากความรักโลกนี้คงเหงาไม่น้อย และเซ็กซ์มีค่าเหมือนเครื่องจักรกลอย่างหนึ่ง

มีคำพูดของคาร์ล มาร์กซ์ นักปฏิวัติสังคม (คงจำกันได้สมัยเรียนผ่านตามาบ้างล่ะ) เขาก็เคยกล่าวว่า “ เซ็กซ์เหมือนกับการเคลื่อนไหวทั่วไป ส่วนความรักนั้นเป็นประดุจการปฏิวัติที่สำเร็จผล “ เพราะทุกวันนี้ เราบริโภคข้อมูล ความรู้ โดยปราศจากความเข้าใจ (ประมาณว่ารู้ไว้ก่อน) เหมือนมีเซ็กซ์ โดยปราศจากความรักความเข้าใจ (ประมาณว่ามีไว้ก่อนอย่างไม่ทราบ) ดูจากทุกวันนี้ มีศัพท์แปลกๆ เกี่ยวกับจุดกระสันเป็นจำนวนมาก บางคนก็อยากบรรลุความสุดขีดทางเพศ grand mal หรือ กระสันอย่างรุนแรงและรัญจวนไปหมดทั้งกาย ดูเหมือนเพศได้กลายเป็นสิ่งที่มนุษย์ลดคุณค่าไปแล้ว เราได้สร้างตัวเองให้เป็นหุ่นยนต์ เวลาเคลื่อนไหวอะไรสักอย่าง บางตำราเรียกว่า จังหวะก้าว จนไม่สนใจว่าเราเพลินกับมาแค่ไหน

มีเรื่องเล่าของดาราตลกฮอลลีวูด ชื่อ วูดดี้ อัลเลน เขาพูดขำๆ แต่น่าฟังว่า “ในที่สุดผมก็บรรลุถึงจุดกระสัน----แต่หมอของผมบอกว่าเป็นประเภทที่ผิด” อย่าให้ความรู้เรื่องเพศ กลายเป็นการเอาเกวียนไปไว้หน้าม้าหรือควายก็ตามที รู้สึกว่าโลกเปลี่ยนไป ความรักซึ่งควรเป็นเรื่องสนุก ทุกวันนี้กลายเป็นการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ที่น่ากลัวไปหน่อย ความรักในที่นี้ คือ ความรักเป็นเองโดยธรรมชาติ มากกว่าเป็นเรื่องของจังหวะก้าวจังหวะเวลาแบบในตำรา ผู้คนน้อยคนที่รู้วิธีผูกรัก และเป็นจำนวนน้อยพอๆกับคนที่รู้วิธีคิด เพศเป็นสัญชาติญาณเบื้องต้น ขณะที่ความรักเป็นฝีมือที่ได้มาด้วยการฝึกฝน


ปล.1 ทั้งนี้ไม่ว่าความรักหรือเซ็กซ์มีให้พอดี (เดินทางสายกลางนะจ๊ะ) กับการดำรงชีวิต อย่าให้มากไปน้อยไปในชีวิต และในชีวิตยังมีอะไรให้ทำอีกมากมาย หาความพอดีให้กับตัวเองด้วยนะ


ปล.2 ช่วงอายุในการเรียนรู้เรื่องเซ็กซ์ ถ้าเพศศึกษาโดยเบื้องต้น อายุ 12 ก็คงเรียนได้มั้งในวิชาสุขศึกษาหรือในวิชาวิทยาศาสตร์บทร่างกายของเรา แต่เนื้อหาในนี้เราของสงวนไว้ตามกฎหมายดีกว่า คือบรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย อายุ 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ค่อยๆเรียนรู้ดีกว่าก้าวกระโดดจะได้ไม่ทำให้รู้สึกว่าช่วงชีวิตหนึ่งของคุณหายไป


เด็กน้อยเดินมาถามแม่ว่า SEX อะไร ฝ่ายแม่ตอบอย่างหมดไส้หมดพุงในกรรมวิธีต่างที่ได้ทำมาเป็นเวลายาวนาน เด็กน้อยทำหน้างุนงง แล้วหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาแล้วพูดว่า " แล้วผมจะตอบลงในช่องสี่เหลี่ยมนี้ได้อย่างไง " ว่าแล้วก็ชี้ให้แม่ดู SEX : ๐ Male ๐ Female –

แฟชั่นสาวเกาหลี

คล้าย ๆ บ้านเรา(ไทยแลนด์)..............
แนวคุณหนู...............

แนวน่ารัก................
แนวคิกขุ...........

HOSPITAL

"Hospital" By P Nan Print E-mail
Written by admin2
Wednesday, 26 March 2008
หวัดดีค่ะ...น้องๆ เจอกันเช่นเคยนะคะ คราวก่อนๆโน้น...พี่คุยเรื่องร่างกายทุกสัดส่วนไปแล้ว วันนี้ก็เลยอยากจะสานต่อเรื่องราววันนั้นเพิ่มเติมค่ะ

ก็ถ้าพูดถึงร่างกายของเรา น้องๆหลายคนอาจจะนึกถึงความสวย ความงามบนเรือนร่างและหน้าตา (ที่มีอยู่น้อยนิด อิ อิ) คิดถึงเรื่องศัลยกรรมตกแต่ง เอ๊ะ...ว่าเราจะไปทำส่วนไหนดี เพิ่ม ลด ตรงไหนให้มันสวยยิ่งขึ้น หรือจะต้องทำทั้งหัวและตัว (ไปเกิดใหม่...ง่ายกว่าใหม่อ่ะ) แต่...ถ้าเจ็บป่วยขึ้นมาล่ะค่ะ คิดถึงอะไร ???

หลายคนบอกว่า “คิดถึงรถพยาบาลก่อนเลย...น่ะสิพี่” แน่นอนค่ะ แล้วรถพยาบาลพาน้องๆไปไหนคะ อ้า...หลายคนบอกว่า “สวนสนุก” (อันนั้นน่าจะเป็นรถพยาบาลโรงพยาลบ้าละล่ะ) ว่าแล้ว...วันนี้เราไปเที่ยวโรงพยาบาลกันดีกว่าค่ะ

โรงพยาบาลมีประโยชน์ในเวลาที่ลำบาก แม้ในชีวิตคนเราไม่มีใครอยากไปโรงพยาบาล แต่เมื่อต้องไปก็แสดงว่ามีความจำเป็นจริงๆดังนั้นเรามาเรียนรู้คำศัพท์พื้นฐานที่จำเป็นกันสักหน่อย โรงพยาบาลมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพและจุดมุ่งหมายที่จะรักษา อีกทั้งคำเรียกก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละอย่าง “โรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยทางจิต” ใช้คำว่า mental hospital, “โรงพยาบาลทั่วไป” ซึ่งจัดเตรียมแผนกต่างๆไว้หลายแผนกใช้คำว่า general hospital “สถานพยาบาลเล็กๆของเมือง” ก็ใช้คำว่า clinic หรือ polyclinic ในต่างจังหวัดบ้านเรามักมีสถานีอนามัย (health center หรือ government clinic) ส่วนสถานพยาบาลหรือบ้านพักคนชราที่มีผู้ดูแลสุขภาพให้เรียกว่า nursing home หรือ retirement home ที่เรามักไม่พบมากนักในเมืองไทยแต่มีอยู่อย่างมากมายในประเทศอเมริกา

นอกจากนี้การไปรับการรักษาจากหมอนั้น “การประกันสุขภาพ” (health insurance) เป็นสิ่งจำเป็นและจะถูกเรียกว่า “คนไข้ที่ประกันสุขภาพ” (health insurance patient) หรือ “คนที่ได้รับการประกันสุขภาพ” (the insured)

สิ่งที่จัดให้มีขึ้นในโรงพยาบาล ถ้ามีอาการป่วยรุนแรง เมื่อเข้าโรงพยาบาลแล้วก็จะทำ “การผ่าตัด” (operation) ในกรณีนี้ “ข้อตกลงยินยอมของคนไข้ที่จะรับการผ่าตัด” (informed consent) เป็นสิ่งจำเป็น ในเวลาที่จะ “ถ่ายเลือด” (blood transfusion) ต้องหา “กรุ๊ปเลือด” (blood type) จากนั้นก็นำเลือดออกมาจาก “ธนาคารเลือด” (blood bank) ส่วน “การบริจาคเลือด” ใช้คำว่า blood donation
ขณะที่รับ “ใบสั่งยา” (prescription – ยังมีความหมายว่า “ยาที่แพทย์สั่ง” ด้วย) แล้วต้องไปรับยา “ยา” ใช้คำว่า drug หรือ medicine ส่วน “การให้ยา” จะใช้คำว่า medication “ยาเม็ด” ใช้คำว่า pill ส่วน “ยาใช้ภายใน/ยาดื่ม” ใช้คำว่า oral medicine นอกจากนี้อยากให้ทำความเข้าใจคำศัพท์อื่นๆเกี่ยวกับยาเพิ่มเติม ได้แก่ “ยาเอนกประสงค์รักษาได้สารพัดโรค” (panacea), “ปริมาณยาที่รับประทาน” (dosage), “ผลข้างเคียง” (side effect/adverse effect), “ผลที่เกิดขึ้นภายหลัง” (aftereffect)

จุดเริ่มต้นและตอนจบของชีวิตคนเรา โรงพยาบาลเป็นทั้งสถานที่เกิดและตายของมนุษย์ คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับ “การคลอดบุตร” (childbirth) ได้แก่ “ความเจ็บปวดจากการเบ่ง (คลอด)” (labor pains), “ห้องทำคลอด” (delivery room), “การผ่าเอาทารกออกทางหน้าท้อง” (Caesarean operation), “การแท้ง” (miscarriage), “การคลอดก่อนกำหนด” (premature birth) นอกจากนี้ยังมีคำว่า “การฉีดน้ำเชื้อเพื่อให้ตั้งครรภ์เทียม” ซึ่งมักจะปรากฎเป็นหัวข้อข่าวในหนังสือพิมพ์นั้นใช้คำว่า artificial insemination
คำที่ตรงข้ามกับคำว่า “การมีชีวิต” (life/living/existence) คือ “ความตาย” (death) ซึ่งแบ่งเป็น “การตายด้วยโรคภัย” (death from disease) และ “การตายไปโดยธรรมชาติ” (natural death) เมื่อ “สมองตาย/ไม่สั่งการ” (brain death) ก็จะกลายเป็น “มนุษย์นิทรา” (person in a vegetative state) ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ “การทำให้ตายโดยไม่ทรมาน” (euthanasia) และ “การตายอย่างสมเกียรติ” (death with dignity) เรื่องที่ว่า “ควรจะยืดชีวิตให้ยาวออกไป” (life support) หรือไม่ “สิทธิที่จะตาย” (right to die)
ควรจะมีหรือไม่ดังนั้นเรื่องนี้จึงได้กลายเป็นข้อโต้เถียงกันมากขึ้น และยังหาข้อสรุปไม่ได้ในหลายๆประเทศทั่วโลก

เป็นไงบ้างคะ “ตะลุยโรงพยาบาล” กับพี่ในวันนี้ หวังว่าน้องๆคงจะได้ความรู้ ติดหูกันไปบ้างนะคะ...คราวนี้ถ้าใครพูดถึงโรงพยาบาลหรือความเป็น-ความตาย น้องๆก็คงมี idea ในหัวแล้วนะคะ ว่าคำศัพท์ที่จะต้องเจอ หรือสิ่งที่ควรรู้ จะประมาณไหน ...ยังไงก็ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพกันให้ดีค่ะ อยากให้ไป “สวนสนุก” กันมากกว่าไป “โรงพยาบาล” ค่ะ ^-^

ภาวะโลกร้อน


ภาวะโลกร้อนภายในช่วง 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 จนถึงปัจจุบัน ได้มีการบันทึกปีที่มีอากาศร้อนที่สุดถึง 3 ปีคือ ปี พ.ศ. 2533 พ.ศ.2538 และ พ.ศ. 2540 แม้ว่าพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังมีความไม่แน่นอนหลายประการ แต่การถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ได้เปลี่ยนหัวข้อจากคำถามที่ว่า "โลกกำลังร้อนขึ้นจริงหรือ" เป็น "ผลกระทบจากการที่โลกร้อนขึ้นจะส่งผลร้ายแรงและต่อเนื่องต่อสิ่งที่มีชีวิตในโลกอย่างไร" ดังนั้น ยิ่งเราประวิงเวลาลงมือกระทำการแก้ไขออกไปเพียงใด ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น และผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ลูกหลานของพวกเราเอง

คณะกรรมการของรัฐบาลนานาชาติว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ที่มีองค์การด้านวิทยาศาสตร์ ได้ร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ เฝ้าสังเกตผลกระทบต่างๆ และได้พบหลักฐานใหม่ที่แจ่มชัดว่า ภาวะโลกร้อนขึ้นในช่วง 50 กว่าปีมานี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นในทุกหนทุกแห่ง ประมาณ 1.4-5.8 องศาเซลเซียส

สภาพภูมิอากาศไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย แต่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและบ่อยครั้ง และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดไ ด้แก่ ความแห้งแล้งอย่างรุนแรง วาตภัย อุทกภัย พายุฝนฟ้าคะนอง พายุทอร์นาโด แผ่นดินถล่ม และการเกิดพายุรุนแรงฉับพลัน จากภาวะอันตรายเหล่านี้พบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ที่เสี่ยงกับการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งได้รับผลกระทบมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆ ยังไม่ได้รับการเอาใจใส่และช่วยเหลือเท่าที่ควร นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นเป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตเพื่อการบริโภคโดยรวมลดลง ซึ่งทำให้จำนวนผู้อดอยากหิวโหยเพิ่มขึ้นอีก 60-350 ล้านคน

ในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ มีการจัดตั้งโครงการพลังงานต่างๆ และการดำเนินงานของโครงการเหล่านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์อย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงของฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาล และปริมาณน้ำฝนที่ตกในแต่ละช่วงได้เปลี่ยนแปลงไป การบุกรุกและทำลายป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ระดับน้ำทะเลและอุณหภูมิของน้ำทะเลที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบนิเวศน์ตามแนวชายฝั่ง และการที่อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น ได้ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสี ดังนั้น แนวปะการังต่างๆ จึงได้รับผลกระทบและถูกทำลายเช่นกัน

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 2,490 กิโลเมตร และเป็นแหล่งที่สำคัญมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และมีฤดูกาลที่ไม่แน่นอนที่ส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรกรรม มีผู้คาดการณ์ว่า หากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 1 เมตรภายในทศวรรษหน้า หาดทรายและพื้นที่ชายฝั่งในประเทศไทยจะลดน้อยลง สถานที่ตากอากาศชายทะเล รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พัทยา และ ระยองจะได้รับผลกระทบโดยตรง แม้แต่กรุงเทพมหานครก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากผลกระทบของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นนี้เช่นกัน

ปัญหาด้านสุขภาพก็เป็นปัญหาร้ายแรงเรื่องหนึ่งที่เกิดจากจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงนี้ด้วย เนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นที่สูงขึ้นส่งผลให้จำนวนยุงเพิ่มขึ้น นำไปสู่การแพร่ระบาดของไข้มาเลเรียและไข้ส่า นอกจากนี้โรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เช่น อหิวาห์ตกโรค ซึ่งจัดว่าเป็นโรคที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วโรคหนึ่งในภูมิภาคนี้ คาดว่าจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องเพราะอุณหภูมิและความชื้นที่สูงขึ้น คนยากจนเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อผลกระทบของโรค แต่การให้ความรู้ในด้านการดูแลรักษาสุขภาพที่ดียังมีไม่เพียงพอ

ปัจจุบันนี้สัญญาณเบื้องต้นของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปได้ปรากฏขึ้นอย่างแจ่มชัด ดังนั้น สมควรหรือไม่ที่จะรอจนกว่าจะค้นพบข้อมูลมากขึ้น หรือ มีความรู้ในวิธีแก้ไขมากขึ้น เพราะ ณ เวลานั้นก็อาจสายเกินไปแล้วที่จะแก้ไขได้

Bangkok International Motor Show 2008


Bangkok International Motor Show 2008
“The Environmental Auto Globalization”
นวัตกรรมยานยนต์ คน และธรรมชาติ
ปัจจุบันโลกต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพดินฟ้าอากาศแปรปรวน อันเป็นผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน ฉะนั้นมนุษย์เป็นปัจจัยหลักในการสร้างปัญหานี้ เนื่องจากมนุษย์มีความต้องการด้านวัตถุ สิ่งอุปโภคและบริโภคหลายๆ ด้าน รวมถึงการใช้รถยนต์และเชื้อเพลิงที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันนี้ ซึ่งก่อเกิดปัญหามลภาวะเช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อลดภาวะโลกร้อน ปัญหามลพิษ และเพื่อการพัฒนาความสมดุลให้แก่โลกใบนี้ระหว่างยานยนต์ คน และธรรมชาติ เริ่มใส่ใจกับสภาพแวดล้อมซักนิด เพื่อการดำรงชีวิตสืบต่อไปในอนาคต

ณ ไบเทค บางนา
วันที่ 27 มีนาคม -6 เมษายน 2551

มอเตอร์โชว์ 2008(2)








ช่วงวันที่ 28-6 เมษายน 2551 นี้ใครที่ชอบเรื่องของรถยนต์คงจะต้องกระดี๊กระด๊าน่าดู... เพราะเป็นช่วงเวลาของงานแสดงรถครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองไทยรายการหนึ่งอย่างรายการบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2551 (Bangkok International Motorshow 2008) ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 29 แล้ว

แน่นอนว่ารถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ก็คงจะพากันเดินขบวนพาเรดมาโชว์คับคั่งเช่นเคย และที่จะขาดเสียไม่ได้ก็เห็นจะเป็นสีสันของพริตตี้ภายในงานซึ่งกลายเป็นของคู่กันไปเสียแล้ว... เรียกได้ว่าไปงานเดียวอิ่มทั้งตาอิ่มทั้งใจก็ว่าได้

และก็เช่นเคย... สนุก! ฟอร์มูล่า วัน (Sanook! Formula 1) ของเราก็ยังคงทำหน้าที่นำภาพของรถยนต์ที่จัดแสดงภายในงานและรูปสาวๆ พริตตี้ประจำรถทั้งหลายมาให้ได้ชมกันเพื่อประกอบการตัดสินใจและเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยอย่างเต็มอิ่ม

หน้านี้จะเป็นหน้ารวมลิงค์รถและพริตตี้ประจำรถยี่ห้อต่างๆ โดยมีภาพบางส่วนให้ดูประกอบลิงค์นะครับ แต่ถ้าอยากดูกันแบบเต็มๆ ก็คลิกลิงค์เข้าไปดูกันให้จุใจได้เลย...

อ้อ..!! แล้วเราจะอัพเดทกันแบบต่อเนื่องเรียลไทม์กันเลยนะครับ คือแกลเลอรี่ไหนเสร็จก็อัพขึ้นให้ชมกันเลย... ดังนั้นอยากได้แปลกใจนะครับถ้าคลิกเข้ามาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วยังเห็นไม่กี่ยี่ห้อ แต่พอคลิกเข้ามาดูอีกไม่กี่นาทีถัดมาจะมีเพิ่มขึ้นมา และเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อยๆ จนครบในอีกไม่กี่นาทีถัดไป... ว่าแล้วก็รีบไปชมกันเลยดีกว่าครับ...

ความรู้เกี่ยวกับภาพจากเว็บ


เกี่ยวกับรูปภาพจากเว็บ

คุณลักษณะการอัพโหลดรูปภาพของ Blogger ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดและแสดงรูปภาพในบทความของตนได้ ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อต้องการเพิ่มภาพถ่ายที่คุณถ่ายหรือรูปภาพที่คุณสร้างขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มีรายละเอียดที่ควรทราบสองสามประการสำหรับรูปภาพที่มีความคุ้มครองตามกฎหมาย หรือมีการจัดวางไว้โดยที่ผู้อื่นเสียค่าใช้จ่าย

การเพิ่มรูปภาพ "จากเว็บ"

ถ้าคุณเลือกที่จะ "เพิ่มรูปภาพจากเว็บ" โดยใช้คุณลักษณะการอัพโหลดรูปภาพใน Blogger คุณไม่ควรใช้ตำแหน่งของรูปภาพที่มีการจัดวางโดยที่ผู้อื่นเสียค่าใช้จ่าย และไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลดังกล่าว บางครั้งเราจะเรียกการกระทำเช่นนี้ว่า "การขโมยแบนด์วิธ" เนื่องจากทุกครั้งที่บล็อกของคุณมีการโหลด รูปภาพนั้นจะถูกโหลดจากเซิร์ฟเวอร์ และบุคคลที่จัดวางรูปภาพนั้นอาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์

ก่อนที่คุณจะวางรูปภาพในบล็อกของคุณ โปรดทราบว่ารูปภาพบางรูปได้รับการคุ้มครองในฐานะทรัพย์สินทางปัญญาผ่านทางลิขสิทธิ์ ซึ่งหมายความว่าผู้สร้างมีสิทธิ์ตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียวสำหรับงานของตน และอาจไม่ต้องการให้คุณคัดลอกและแสดงงานนั้นๆ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่ารูปภาพนั้นมีลิขสิทธิ์หรือไม่ ทางที่ดีก็คืออย่าเสี่ยง แต่อย่างไรก็ตาม มีหลายๆ ที่ซึ่งช่วยให้คุณสามารถหารูปภาพที่คุณใช้ได